คงไม่เคยรู้ล่ะสินะ
วันนี้ผมจะเอาประวัติของเจ้าเกมออนไลน์มาให้รู้กันนะครับ
ก่อนจะมาเป็นเกมออนไลน์ ย้อนประวัติไปดูยุคประวัติศาสตร์เกมกัน
สวัสดีครับเพื่อนๆ กลับมาพบกันอีกครั้งในวันปีใหม่ของไทย แบบนี้ผมว่ามีอะไรดีๆ เกิดขึ้นเยอะเหมือนดีนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ หรือว่ากับการปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น พอหันกลับมาดูเรื่องตลาดของเกมออนไลน์ของเรากันบ้าง ผมว่าแนวโน้มของเกมออนไลน์ในปีนี้ก็น่าจะยังโตขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าก็มีเกมใหม่ๆ หรือว่าแนวทางในการดึงคนเล่นใหม่ๆ กันมากมาย ดูๆ ไปแล้วก็คิดย้อนกลับไปถึงสมัยก่อนนะครับเมื่อสักสามสี่ปีก่อนสมัยยุคที่เกมออนไลน์พึ่งเข้ามาใหม่ๆ ตอนนั้นอินเตอร์เน็ตยังไม่แรงเหมือนสมัยนี้ก็ยังเล่นกันได้สนุกสนานเลยทีเดียว แล้วเคยทราบกันหรือไม่ครับว่าทำไมเค้าถึงทำเกมออนไลน์แล้วจุดที่ทำให้เกิดนั้นมีแนวคิดมาจากอะไร วันนี้กระผมนายนานาสาระก็เลยจะมาลองเล่าแนวทางก่อนที่จะมาเป็นเกมออนไลน์ในมุมมองของผมครับ
ยุคแรกของเกม
ถ้าพูดถึงเกมสมัยก่อนเราก็ต้องนึกถึงเครื่องเล่นเกมคอนโซลเป็นหลักถูกไหมครับ แต่ในช่วงหลังๆ เมื่อคอมพิวเตอร์ซึ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้วก็ราคาถูกลงก็ได้มีการพัฒนาเกมสำหรับคอมพิวเตอร์ออกมาซึ่งก็ทำให้มีทั้งเกมที่เล่นบนเครื่องเล่นเกมแล้วก็เกมที่เล่นกับคอมพิวเตอร์ โดยถ้าเป็นเด็กในสมัยแรกๆ อย่างรุ่นผมนั้นอย่างน้อยก็ต้องมีเครื่อง Famicom เป็นสมบัติส่วนตัวกัน แต่รู้สึกจะย้อนมากเกินไปหน่อยต้องขอถอยกลับสู่ปัจจุบันขึ้นมาอีกนิดดีกว่า สำหรับเกมในยุคก่อนๆ ทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วก็เครื่องคอนโซลนั้นจะเน้นที่การเล่นหนึ่งคนหรือสองคนในบ้านเป็นหลัก ถ้าจะให้เรียกรวมๆ ก็น่าจะเรียกเกมออฟไลน์ (น่าจะพอเรียกได้) ได้เหมือนกัน ซึ่งเกมพวกนี้นั้นจะเน้นให้ความบันเทิงกับคนในจำนวนไม่มากนักซึ่งผมจะเรียกยุคนี้เป็นยุคแรก
การพัฒนาในยุคที่สอง

เกมรุ่นเก๋าที่เล่นสู้กันก็สนุกไม่แพ้เกมใหม่ๆ
ซึ่งในยุคที่สองต่อมานั้นทางด้านเกมคอมพิวเตอร์ก็จะเริ่มเน้นการเล่นแบบมัลติเพลเยอร์หรือว่าเล่นกันหลายๆ คนซึ่งก็ให้ความสนุกสนานกับคนจำนวนที่มากขึ้นโดยตัวเกมนั้นก็จะอาศัยระบบเครือข่ายภายในขนาดเล็กที่เรียกว่า LAN นั่นละครับทำให้การเล่นเกมสามารถมีผู้เล่นได้มากขึ้นโดยเกมแรกๆ ที่เล่นกันได้นั้นก็จะเป็นเกมพวก Action-Shooting หรือไม่ก็เกม Strategy (วางแผนการรบ) อย่างตอนแรกๆ ที่ผมได้มีโอกาสเล่นเกมพวกนี้ก็ต้องเป็น DOOM ละครับที่เล่นแบบช่วยกันหรือไม่ก็เล่น Warcraft ในแบบสู้กันเองซึ่งก็สร้างความสนุกสนานให้ไม่น้อยเลยทีเดียว (ที่จริงมันเป็นเกมที่ผมเคยไปลงแข่งตอนชิงแชมป์ประเทศไทยเมื่อหลายปีก่อนๆ ^^) ถ้าหันมามองเครื่องคอนโซลก็จะมีพวกจอยพิเศษสำหรับต่อขยายให้เล่นเกมด้วยกันได้มากขึ้นที่เรียกว่ามัลติแท๊ป (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) ซึ่งเกมที่ผมชอบเล่นในยุคนั้นที่เล่นกันได้หลายคนก็คงจะเป็น "Downtown รวมกีฬา" อย่าพึ่งเข้าใจผิดว่ามันจะอยู่ในปีเดียวกันนะครับผมสรุปภาพโดยรวมของการพัฒนาเท่านั้น

ถ้ามีเจ้าตัวนี้นะครับสนุกกันได้หลายคนเลยล่ะ
ก้าวเข้าสู่ยุคออนไลน์
เอาละครับหลังจากที่ยุคที่สองเริ่มได้รับความนิยมไปสักพักใหญ่ๆ ก็ได้เข้าสู่ช่วงยุคที่อินเตอร์เน็ตกำลังเริ่มมีบทบาทมากขึ้นตัวเกมที่เป็นมัลติเพลเยอร์ของคอมพิวเตอร์ก็ได้มีการปรับพัฒนาให้สามารถเล่นบนอินเตอร์เน็ตได้ด้วยซึ่งก็ทำให้สามารถเล่นกับเพื่อนได้มากขึ้นแล้วก็ไม่ต้องไปนั่งเล่นกันอยู่ที่ร้านเดียวกันเหมือนแต่ก่อน ซึ่งช่วงนี้เองที่ได้เริ่มมีแนวคิดเรื่องเกมออนไลน์เกิดขึ้นมาซึ่งแนวคิดก็คือการที่จะสร้างเกมๆ หนึ่งซึ่งผู้เล่นแต่ละคนสามารถเข้ามาเล่นร่วมกันได้โดยผ่านอินเตอร์เน็ต โดยในช่วงแรกๆ ของแนวคิดก็จะเป็นเกมแนว RPG เป็นส่วนใหญ่
ทางด้านคอมพิวเตอร์นั้นผมเองก็ไม่แน่ใจว่าเกมแรกที่เป็นเกมออนไลน์นั้นคือเกมอะไรแต่ว่าที่ผมรู้จักก็จะเป็น Ultima Online แล้วก็ EverQuest ที่เป็นเกมออนไลน์ของทางฝั่งยุโรปเค้าซึ่งก็ได้รับความนิยมไม่มากนักในประเทศไทยเพราะว่าตัวเกมมีราคาแพงแล้วก็อินเตอร์เน็ตยังไม่เร็วมากแถมเรื่องภาษายังเป็นปัญหาในการเล่นอยู่มากนั่นเอง ส่วนถ้าหันกลับไปมองเกมคอนโซลเกมออนไลน์เกมแรกที่ผมรู้จักก็คงจะเป็น Phantasy Star Online ซึ่งได้รับความนิยมมากเพราะเป็นเกมแนว Action RPG ที่เล่นง่ายแล้วก็สนุกดีสามารถเล่นได้ทั้งออฟไลน์แล้วก็ออนไลน์

เป็นหนึ่งในดวงใจของผมเหมือนกันครับเกมนี้
ซึ่งหลังจากนั้นก็มีเกมออกมามายมายเหมือนกันแต่ถ้าจะพูดถึงการเติบโตของเกมออนไลน์ในบ้านเรานั้นก็คงจะเกิดจากกระแสของเกม Ragnarok Online ที่ได้เปิดตัวเมื่อสองสามปีก่อนนั้นเองเอาละครับเรื่องราวหลังจากนั้นผมว่าเพื่อนๆ หลายคนก็คงจะตามการเติบโตของเกมกันต่อไปแล้วนะครับ ส่วนเรื่องราวของการเดินทางตั้งแต่จากเกมธรรมดาพัฒนามาจนได้เกิดเป็นเกมออนไลน์ตามแนวคิดของผมนั้นอาจจะตกหล่นข้อมูลอะไรบางอย่างไปบ้างก็อย่าคิดมากก็แล้วกันครับเอาไว้อ่านเป็นแนวทางก็พอ เอาล่ะครับผมว่าสำหรับครั้งนี้ก็คงจะจบกันไว้ที่ตรงนี้ก็แล้วกันไว้พบกันใหม่ในฉบับหน้าสวัสดีครับ
ที่มา http://www.online-station.net/news/views.php?id=4112
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น